Get Adobe Flash player
เมนูหลัก
วัดทรงเสวย บน Facebook
ส้มฉุน ศิษย์วัดทรงเสวย
ข่าวประชาสัมพันธ์
สถิติเว็บไซต์

สถานที่ภายในวัด

00-1

หลวงพ่อเพิ่มทรัพย์ วัดทรงเสวย
🙏🏻 ประทานพร เพิ่มทรัพย์สินเงินทองให้เพิ่มพูล 💸💎✨
~~~~~~~~~~~~
หลวงพ่อเพิ่มทรัพย์ พระพุทธ เก่าที่อยู่คู่วัดทรงเสวย อีกองค์หนึ่ง
แต่เดิม ประดิษฐาน ณ ศาลาร้อยปี วัดทรงเสวย มาตั้งแต่สมัย หลวงปู่คล้อย ธมฺมนิยํ
ปฐมเจ้าอาวาสวัดทรงเสวย ชาวบ้าน ถวายนาม ว่า หลวงพ่อเพิ่มทรัพย์
สร้างในปีพุทธศักราช 2470 ทำจากปูนปั้น โดยช่างฝีมือชาวบ้านในสมัยนั้น
ปัจจุบัน คณะกรรมการวัดทรงเสวย ได้ย้าย องค์ หลวงพ่อเพิ่มทรัพย์
นำมา ประดิษฐาน ณ วิหารองค์หลวงพ่อโต ข้างอุโบสถวัดทรงเสวย (อยู่ทางทิศเหนือของอุโบสถ)
เพื่อเป็นที่สักการะ อีกจุดหนึ่ง ของวัดทรงเสวย
01
02
03
04

S__50553114_0

พระตําหนักราชฤทธิ์รุ่งโรจน์
ตำหนักที่ประทับพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุรุพงษ์รัชสมโภช

S__50553041_0

S__50553043_0
S__50553044_0
S__50553045_0
S__50553046_0

S__50553047_0

S__50553048_0

S__50553049_0

S__50553050_0

S__50553051_0

พิพิธภัณฑ์รัชกาลที่ ๕ วัดทรงเสวย
จัดแสดงของพระราชทานเครื่องสังเค็ด ของที่ระลึกงานพระศพของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช

S__50553052_0

S__50553054_0

S__50553055_0

S__50553056_0

S__50553057_0

S__50553058_0

S__50553059_0

S__50553060_0

S__50553061_0

S__50553062_0

S__50553085_0

S__50553087_0

S__50553088_0

S__50553089_0

S__50553090_0

S__50553091_0

S__50553092_0

S__50553093_0

S__50553094_0

S__50553095_0

มหามกุฏราชสันตติวงศ์ ๑๕ ตุลาคม ๒๔๓๖
วันประสูติพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุรุพงษ์รัชสมโภช

พระองค์เจ้าชายอุรุพงษ์รัชสมโภช เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ ๗๕ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเลื่อน ประสูติวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๔๓๖ เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่โปรดให้ตามเสด็จรับใช้ใกล้ชิด มาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์เช่นเมื่อคราวเสด็จประพาสต้นครั้งที่ ๒ ปี พุทธศักราช ๒๔๔๙ และเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ ๒ ปี พุทธศักราช ๒๔๕๐ พระองค์ก็ได้ตามเสด็จสมเด็จพระบรมชนกนาถด้วยทั้ง ๒ ครั้ง เมื่อทรงเจริญถึงวัยที่จะเสด็จไปทรงศึกษาต่อต่างประเทศ เช่นเดียวกับพระราชโอรสพระองค์อื่น ก็ทรงให้เว้นเสีย และให้จ้างครูชาวต่างชาติเข้ามาสอนหนังสือถึงในพระตำหนัก แทนที่จะต้องเสด็จไปศึกษาในต่างประเทศ นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างตำหนักขึ้นภายในพระราชวังดุสิตและพระราชทานนามว่า “ตำหนักราชฤทธิ์รุ่งโรจน์” เพื่อพระราชทานให้ประทับอยู่ใกล้ ๆ พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอุรุพงษ์รัชสมโภช ประชวรด้วยโรคไส้ตัน สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๕ สิริพระชันษา ๑๗ ปี เมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๔๕๒ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงโทมนัสยิ่งนักที่พระราชโอรสสิ้นพระชนม์ ในวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระองค์ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างสะพานข้ามคลอง เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์เป็นสาธารณกุศล ที่เชิงสะพานทั้งสองฝั่งมีพระรูปปั้นหินอ่อนของพระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช พระราชทานชื่อสะพานว่า สะพานอุรุพงษ์ จนถึงปัจจุบัน ไม่มีสะพานแห่งนี้แล้ว คงเหลือแต่ชื่อ สะพานอุรุพงษ์ ข้ามแม่น้ำเพชรบุรี อาคารอุรุพงษ์ ภายในวิทยาลัยอาชีวศึกษาเพชรบุรี ถนนอุรุพงษ์ และสี่แยกอุรุพงษ์ ถนนในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุรุพงษ์รัชสมโภช นับเป็นพระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ที่สืบสายจากพระบรมชนกนาถ

วัดทรงเสวยตั้งอยู่ ณ บ้านหนองแค เลขที่ ๖๓ หมู่ ๑ ต.หนองน้อย อ. วัดสิงห์ จ. ชัยนาท

S__50553107_0

S__50553109_0

S__50553110_0

S__50553111_0

S__50553112_0

S__50553113_0

S__50553114_0

S__50553115_0

S__50553116_0

S__50553117_0

แต่เดิมเป็นวัดร่าง สมัยอยุธยา มีชื่อเดิมว่าวัดเกสร ก่อตั้งขึ้นโดยพระอธิการคล้อย ธมฺมนิยํ และชาวบ้านหนองแค ภายหลังพระอธิการคล้อย ธมฺมนิยํ ท่านได้ตั้งชื่อวัดว่า วัดราษฎร์เจริญธรรม แต่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่าวัดหนองแค ตามชื่อหมู่บ้านมากกว่า ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๑ (ร.ศ. ๑๒๗)พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.๕ เสด็จพระราชดำเนิน ตรวจสอบลำน้ำเก่า โดยทางรถไฟถึง จ.นครสวรรค์ แล้วเสด็จประทับเรือพระที่นั่งครุฑเหิรเห็จ เพื่อตรวจลำแม่น้ำมะขามเฒ่า (แม่น้ำท่าจีน)ทรงประทับแรมที่วัดหัวหาด อ. มโนรมย์ ปัจจุบันเรียกวัดนี้ว่า วัดพิกุลงาม นับเป็นการเสด็จเมืองชัยนาท เป็นครั้งที่ ๓ ต่อจากนั้น วันที่ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๑ เสด็จ ฯ ตามลำน้ำมะขามเฒ่าผ่านตลาดวัดสิงห์ ลำน้ำมะขามเฒ่า สมัยนั้นเต็มไปด้วยผักตบชวา และตอไม้ ประชาชนจึงได้ช่วยกัน ตัดตอไม้ และเก็บผักตบชวา พระองค์ประทับแรมที่ ณ บ้านหนองแค ซึ่งสมัยนั้นขึ้นกับ ตำบลคลองจันทร์ อำเภอเดิมบาง เมืองไชยนาท (ปีพุทธศักราช๒๔๕๒ ได้เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นตำบลวัดสิงห์ อำเภอวัดสิงห์ เมืองไชยนาท)

ปัจจุบันอยู่ในเขตตำบลหนองน้อย อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ในครั้งนั้น พระอธิการคล้อยเป็นเจ้าอาวาส ได้ชักชวนราษฎร์ สร้างพลับพลารับเสด็จ พระองค์ทรงมีพระราชประสงค์ เสวยยอดหวายโปง ตาแป้น มรรคนายกวัดหนองแค (ภายหลังทรงตั้งให้ตาแป้น ดำลงตำแหน่งหมื่นสมาน ขุนมาส) จึงได้ให้ชาวบ้านไปหายอดหวายโปงมา เผาไฟ หยวกกล้วยต้ม น้ำพริกปลามัจฉะมาถวาย พระองค์ทรงเสวยอย่างเจริญพระกระยาหาร และตรัสกับชาวบ้านว่า ต่อไปนี้ให้เรียกวัดนี้ว่า วัดเสวย แต่ชาวบ้านได้ขอพระราชทาน ขอเติมคำว่า “ทรง” ไปด้วย พระองค์ทรงพระอนุญาต ชาวบ้านจึงเรียกวัดนี้ว่า “วัดทรงเสวย” จนทุกวันนี้

และเมื่อปีพ.ศ.๒๔๕๒ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช (พระโอรสองค์ที่ ๗๕) ประชวรด้วยโรคไส้ตัน สิ้นพระชนม์ด้วยวัยเพียง ๑๗ พรรษา เมื่อวันพฤหัสบดี เดือน ๑๒ ขึ้น ๘ ค่ำ ปีมะเส็งเบญจศก ตรงกับวันที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๕๒ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.๕ ทรงมีรับสั่งให้ บูรณะวัดทรงเสวย ถวายเป็นพระราชกุลแด่ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.๕ ได้ถวายของที่ระลึก แด่พระอธิการคล้อย เป็นของที่ระลึกงานพระศพของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช ของที่ถวาย ได้แก่ บาตร ฝาบาตรมีตราสีทองรูปวงรี มีข้อความว่า ร.ศ. ๑๒๘ งานพระศพพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช ปิ่นโตขนาดใหญ่ที่ฝาปิ่นโต มีข้อความเช่นเดียวกับฝาบาตร พระขรรค์ ตาลปัตรใบลาน ตะเกียงลานเรือสำปั้น ป้านน้ำชา ๑ ชุด ตราประจำวัดทรงเสวยแกะด้วยงา และสิ่งอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งของเหล่านี้ ปัจจุบันทางวัดยังเก็บรักษาไว้อย่างดี

และปัจจุบันวัดทรงเสวย จัดให้มีพิธีบำเพ็ญพระกุศลอุทิศถวาย พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช ในวันที่ ๒๐ กันยายน ของทุกๆปี และแจกทุนการศึกษาแก่เด็กยากจน เพื่อเป็นการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อวัดทรงเสวย

00

ขอเชิญกราบขอพร อัฐิธาตุหลวงปู่ย้อย(พระครูวิชัยสาธุกิจ)

” เทพเจ้าวาจาสิทธิ์ แห่งแม่น้ำท่าจีน
เจ้าตำรับ ตำราแมงมุมขยุ่มทรัพย์
ศิษย์หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า “

– กราบหุ่นรูปเหมือนไฟเบอร์ฯ หลวงปู่ย้อย
– ชมกุฎิสภาพแบบเดิมๆสมัยตอนหลวงปู่ย้อยยังมีชีวิตอยู่
– ชมวัตถุมงคลหลวงปู่ย้อย

ณ วัดทรงเสวย จ.ชัยนาท

————————

01

02

03

04

05

06

07

อัฐิธาตุหลวงปู่ย้อย(พระครูวิชัยสาธุกิจ)

และ

หุ่นรูปเหมือนไฟเบอร์ฯ หลวงปู่ย้อย

12

17

18

22

23

24

25

27

13

14

15

16

19

20

21

26

ชมกุฎิสภาพแบบเดิมๆสมัยตอนหลวงปู่ย้อยยังมีชีวิตอยู่

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12

13

14

15

16

17

18

19

20

21

วัตถุมงคลหลวงปู่ย้อย

44442120_242276003312619_1225963127191896064_n

44395331_1928815993881885_4897993151173623808_n

แมงมุมขยุ้มทรัพย์ หลวงปู่ย้อย วัดทรงเสวย
ความเป็นมา
เป็นที่ทราบกันดีว่าวิชาสำคัญถือเป็นสุดยอด
และแน่นอนสร้างชื่อเสียงให้หลวงปู่ย้อย
คือ ” วิชาแมงมุมขยุ้มทรัพย์ ” ที่ท่านได้รับถ่ายทอดมาจากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
โดยตรงหลวงปู่ศุขได้สอนวิชา ” แมงมุมขยุ้มทรัพย์” โดยมีเคล็ดวิชาว่า
” แมงมุมเป็นสัตว์วิเศษ
ไม่ต้องออกไปหากินมีเหยื่อหรืออาหารเข้ามาถึงรังเข้ามาถึงปาก
เพียงชักใยดักเหยื่อไว้เท่านี้ก็ไม่อดมีกินอิ่มตลอดการ”
การเปิดร้านทำกิจการก็เช่นเดียวกันถ้าได้วิชาแมงมุมขยุ้มทรัพย์ไป
ก็เหมือนเปิดร้านกิจการค้าขายขยุ้มเหยื่อ ขยุ้มทรัพย์ ขยุ้มลูกค้า ขยุ้มโชคดักลาภ
ขยุ้มเงินดักทอง ให้เข้ามาติดกับง่ายดาย เห็นผลเบ็ดเสร็จเด็ดขาดและแน่นอน
หลวงปู่ย้อยได้เรียนรู้วิชาแมงมุมขยุ้มทรัพย์และได้สร้างแมงมุมขยุ้มทรัพย์
ให้ลูกศิษย์ลูกหาได้ใช้ต่างเห็นผลมีประสบการณ์มากมายสุดจะพรรณนา
อาทิ กิจการค้าขายลูกค้าเข้ามากค้าขายดี กิจการเติบโตก้าวหน้าเจริญขึ้น มีโชคมีลาภ
ได้เงินได้ทอง ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งก็มาก
ใครได้แมงมุมของหลวงปู่ย้อยไปต่างมีประสบการณ์ดีขึ้นแทบทั้งนั้นจนเรียกได้ว่า
วิชาขยุ้มทรัพย์โชคลาภค้าขายไม่มีอะไรเกินแมงมุมของหลวงปู่ย้อยไปได้
สรุปรวมความว่าแมงมุมขยุ้มทรัพย์ของหลวงปู่ย้อยเพียบพร้อมไป ด้วยอานุภาพครอบคลุม ทุกทางกล่าวคือ
1. เรียกทรัพย์
2. ขยุ้มทรัพย์
3. ป้องกันอันตราย
4. เป็นแก้วสารพัดนึก
5. วิชาแมงมุมตำรับหลวงปู่ศุขอยู่ไหนก็อิ่มไม่อดอยาก
6. ค้าขายดีลูกค้าเข้ามาก

44385724_2265498210351778_8429081254946668544_n

44361864_364642204079001_5562418140823945216_n

08

09

01

02

03

04

05

06

07

08

09

10

11

12

13

14

15

16

10

นอกจากนี้ทางวัดยังมีวัตถุมงคลหลวงปู่ย้อย วัดทรงเสวย
ทุกรุ่นที่จัดสร้างขึ้นมาใหม่มีไว้ให้บูชาที่วัดทรงเสวย
โดยมีเกจิอาจารย์ที่เป็นสายเดียวกับหลวงปู่ย้อย อธิษฐานจิต เพื่อความเป็นสิริมงคล

9

10

11

2

3

4

5

6

7

8

ขอโชคลาภเจ้าแม่ตะเคียนคู่วัดทรงเสวย ศักดิ์สิทธิ์จริง

02

 ขอโชคลาภเจ้าแม่ตะเคียนคู่วัดทรงเสวย ศักดิ์สิทธิ์จริงที่วัดทรงเสวย ต.หนองน้อย อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท
เป็นวัดที่รู้จักกันดีว่า เมื่อครั้งหนึ่งรัชกาลที่ ๕ เสด็จประพาสต้นที่วัดทรงเสวย
แต่เดิมเป็นวัดร่าง สมัยอยุธยา มีชื่อเดิมว่าวัดเกสร ก่อตั้งขึ้นโดยพระอธิการคล้อย ธมฺมนิยํ และชาวบ้านหนองแค
ภายหลังพระอธิการคล้อย ธมฺมนิยํ ท่านได้ตั้งชื่อวัดว่า วัดราษฎร์เจริญธรรม แต่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่าวัดหนองแค ตามชื่อหมู่บ้านมากกว่า
ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๑ (ร.ศ. ๑๒๗)พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.๕
เสด็จพระราชดำเนิน ตรวจสอบลำน้ำเก่า โดยทางรถไฟถึง จ.นครสวรรค์
ต่อจากนั้นในวันรุ่งขึ้น เสด็จ ฯ ตามลำน้ำมะขามเฒ่าผ่านตลาดวัดสิงห์ ลำน้ำมะขามเฒ่า
สมัยนั้นเต็มไปด้วยผักตบชวา และตอไม้ ประชาชนจึงได้ช่วยกัน ตัดตอไม้ และเก็บผักตบชวา
พระองค์ประทับแรมที่ ณ บ้านหนองแค ซึ่งสมัยนั้นขึ้นกับ ตำบลคลองจันทร์ อำเภอเดิมบาง เมืองไชยนาท
(ปีพุทธศักราช๒๔๕๒ ได้เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นตำบลวัดสิงห์ อำเภอวัดสิงห์ เมืองไชยนาท)

ในครั้งนั้น พระอธิการคล้อยเป็นเจ้าอาวาส ได้ชักชวนราษฎร์ สร้างพลับพลารับเสด็จ
พระองค์ทรงมีพระราชประสงค์ เสวยยอดหวายโปง ตาแป้น มรรคนายกวัดหนองแค
(ภายหลังทรงตั้งให้ตาแป้น ดำรงตำแหน่งหมื่นสมาน ขุนมาส) จึงได้ให้ชาวบ้านไปหายอดหวายโปงมาเผาไฟ
หยวกกล้วยต้ม น้ำพริกปลามัจฉะมาถวาย พระองค์ทรงเสวยอย่างเจริญพระกระยาหาร และตรัสกับชาวบ้านว่า
ต่อไปนี้ให้เรียกวัดนี้ว่า วัดเสวย แต่ชาวบ้านได้ขอพระราชทาน ขอเติมคำว่า “ทรง” ไปด้วย พระองค์ทรงพระอนุญาต
ชาวบ้านจึงเรียกวัดนี้ว่า “วัดทรงเสวย” จนทุกวันนี้

และเมื่อปีพ.ศ.๒๔๕๒ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช (พระโอรสองค์ที่ ๗๕)
ประชวรด้วยโรคไส้ตัน สิ้นพระชนม์ด้วยวัยเพียง ๑๗ พรรษา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.๕ ทรงมีรับสั่งให้
บูรณะวัดทรงเสวย ถวายเป็นพระราชกุลแด่ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช
และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.๕ ได้ถวายของที่ระลึก แด่พระอธิการคล้อย เป็นของที่ระลึกงาน
พระศพของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช ของที่ถวาย ได้แก่ บาตร ฝาบาตรมีตราสีทองรูปวงรี
มีข้อความว่า ร.ศ. ๑๒๘ งานพระศพพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช ปิ่นโตขนาดใหญ่ที่ฝาปิ่นโต
มีข้อความเช่นเดียวกับฝาบาตร พระขรรค์ ตาลปัตรใบลาน ตะเกียงลานเรือสำปั้น ป้านน้ำชา ๑ ชุด
ปัจจุบันทางวัดยังเก็บรักษาไว้อย่างดีภายในพิพิธภัณฑ์วัดทรงเสวย
ด้านข้างพิพิธภัณฑ์นั้นมีหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นก็คือ ต้นตะเคียนขนาดใหญ่มาก ยืนต้น
เป็นต้นตะเคียนคู่วัดเลยก็ว่าได้ จากการเล่าขานของชาวบ้านคนเฒ่าคนแก่ภายในหมู่บ้านวัดทรงเสวยกันว่า
ในสมัยนั้นภายในวัดทรงเสวย เต็มไปด้วยป่า กลางค่ำกลางคืนก็มืดหน้ากลัวมาก
จึงไม่มีใครกล้าผ่านเข้าที่วัดทรงเสวยในเวลากลางค่ำกลางคืน แต่ก็เป็นที่หน้าแปลกพอถึงช่วงหวยใกล้จะออก
ก็จะมีชาวบ้านทั่วทุกทิศมาขอโชคลาภที่วัดทรงเสวย โดยจะนำแป้งมาทาที่โคลนต้นเพื่อหาเลข
แล้วก็ไปซื้อตามที่ได้มา สำหรับความศักดิ์สิทธิ์ที่จะพูดต่อไปนี้ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพราะเป็นความเชื่อของชาวบ้านมาตั้งแต่มีเรื่องเล่าในวัดทรงเสวยขึ้นมา
สมัยแรกๆนั้นยังเป็นต้นตะเคียนธรรมดาไม่ใหญ่โตอะไร
พอเวลาผ่านในสมัยของหลวงปู่ย้อย(ศิษย์ของหลวงปู่ศุข)ชาวบ้านจะขนาดนามท่านว่าเทพเจ้าแห่งวาจาสิทธิ์
เริ่มมีการพูดถึงว่ามีคนเห็นผู้หญิงรูปร่างสวยงามแต่งชุดไทยสวยงาม อยู่บริเวณต้นตะเคียนแห่งนั้น
เริ่มมีการไปเข้าฝันให้โชคคนในหมู่บ้าน หลายครั้งหลายหน บางครั้งที่วัดมีโจรฉุกชุมบางก็เห็นผู้รูปร่างใหญ่โต
ในบริเวณวัดให้เห็นบ้าง ก็โดนกันไปหลายรายเลยทีเดียว เรื่องความให้โชคลาภก็มีผู้คนมาแก้บนเป็นชุดไทย
(ชุดไทยในสมัยนั้นพุพังไปตามกาลและเวลา)พอเวลาผ่านไปความเจริญก้าวเข้ามาก็มีบ้านเรื่อนปลูกอยู่บริเวณนั้น
แต่ก็เป็นที่หน้าแปลก…ก็อยู่กันไม่ได้นานจึงต้องปล่อยให้บ้านนั้นรกล้างไปตามกาลเวลา
ในเวลาต่อมาก็มีการสร้างพิพิธภัณฑ์ในบริเวณนั้นเพื่อเป็นสถานที่จัดแสดงของที่รัชกาลที่๕
พระราชทานให้กับวัดทรงเสวย และด้วยความที่ต้นตะเคียนมีขนาดใหญ่ขึ้นมาตามกาลเวลา
ชาวบ้านและมรรคทายกจึงคุยกันว่าจะต้องโคลนต้นตะเคียนเพราะกลัวกิ่งไม้จะหักลงมา
แต่ความศักดิ์สิทธิ์ของแม่ตะเคียน…ก็ไปเข้าฝันคนในหมู่บ้าน จากการเล่าขานมา
มีผู้หญิงแต่งตัวสวยงาม ผมยาวถึงเอว มาเข้าฝัน พอรุ่งเช้าชาวบ้านก็มาปรึกษาหลวงพ่อที่วัด
หลวงพ่อย้อยในสมัยนั้นเป็นเจ้าอาวาสและท่านยังเป็นศิษธิ์ของหลวงปู่ศุข
ท่านก็นั่งหลับตาไปสักพักใหญ่ แล้วท่านก็ลืมตาขึ้น แล้วก็บอกว่าไม่ต้องตัดหลอก
ที่ตรงนั้นมีรุกขเทวดาประจำอยู่(หลวงพ่อพูด) หลังจากนั้นมาต้นตะเคียน
ก็มีแต่ให้โชคให้ลาภกับผู้ที่ผ่านไปขอโดยตลอด
ปัจจุบันนี้ก็ยังมีนักเสี่ยงโชคไปขอเลขเด็ดกันเป็นประจำ
จากการสอบถามร้านค้าใกล้เคียงก็บอกว่าถูกหวยบ่อยครั้ง มากบ้างน้อยบ้างไม่เท่ากัน
รวมไปถึงพนักงานที่อยู่ภายในพิพิธภัณฑ์ก็ฝันเห็นเลขกันบ่อยครั้ง
นี้เป็นเพียงเรื่องเล่าบ้างส่วนที่เก็บมาเล่า ถ้าท่านอยากสัมผัสก็ต้องมาด้วยตัวท่านเอง
ที่วัดทรงเสวย ต.หนองน้อย อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท และที่สำคัญเมื่อท่านได้ในสิ่งที่ท่านปรารถนาแล้ว
อย่าลืมมาแก้บน ด้วยการถวายสังฆทานภายในโบสถ์วัดทรงเสวย
อันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดทรงเสวย เพื่อเป็นการอุทิศผลบุญกุศลให้กับเจ้าแม่ตะเคียน
และจะส่งเสริมบุญบารมีให้ตัวท่านเองอีกด้วย…

01
03
04
05
06
07
08
09
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20

สถานที่ประทับแรม ร.5

10623552_1809234165968838_8687772426441978994_o

สถานที่ประทับแรม ร.5 ครั้งเมื่อปี2451
ณ สถานที่ท่องเที่ยวตามรอยเสด็จประพาสต้น ร.5 วัดทรงเสวย จ.ชัยนาท


10835351_1809234615968793_8642343499633850326_o11080733_1809234262635495_7609852089964741709_o

พลับพลาไชยวิรัตน์

10922595_1809235189302069_8238238457697077157_n

พลับพลาไชยวิรัตน์
(สร้างขึ้นแทนหลังเก่าที่พังไป)
ณ สถานที่ท่องเที่ยวตามรอยเสด็จประพาสต้น ร.5 วัดทรงเสวย จ.ชัยนาท

11080652_1809235329302055_8832849282614081299_o

พญาแมงมุมขยุ้มทรัพย์ยักษ์

1510459_1568439440048313_1656371580_n

ขอเชิญลอดท้องพญาแมงมุมขยุ้มทรัพย์ยักษ์
แก้ปีชุง อธิฐานขอพร ให้สมหวัง รุ่งเรือง ร่ำรวย
ณ วัดทรงเสวย จ.ชัยนาท

1533869_1568439376714986_1890594203_n
ตำลาแมงมุมขยุ้มทรัพย์

หลวงพ่อทอง
หลวงพ่อทอง
เจ้าอาวาส
เจ้าอาวาส
สถานที่ภายในวัด